Details
?เปิดบ้านจุฬาฯ หารือกระทรวงการอุดมศึกษาฯ? ระหว่างตัวแทนประชาคมจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์

Title ?เปิดบ้านจุฬาฯ หารือกระทรวงการอุดมศึกษาฯ? ระหว่างตัวแทนประชาคมจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์
Author จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
Date วันอังคารที่ 23 กรกฏาคม 2562
Length 1.52 ชั่วโมง
Subject รัฐมนตรีกระทรวงการอุดมศึกษาฯ, สังคมสูงวัย, พัฒนามหาวิทยาลัยไทย
Location จามจุรี 4 ห้องประชุม 202
Description เมื่อวันอังคารที่ 23 กรกฎาคม 2562 ณ ห้องประชุม 202 อาคารจามจุรี 4 ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ซึ่งเป็นกระทรวงที่จัดตั้งขึ้นมาใหม่ ได้เดินทางมาพบปะและหารือกับผู้บริหารจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คณาจารย์ และนิสิตจุฬาฯ เกี่ยวกับแนวทางในการพัฒนามหาวิทยาลัย การศึกษาและการวิจัยในระดับอุดมศึกษา โดย ศ.ดร.บัณฑิต เอื้ออาภรณ์ อธิการบดี จุฬาฯ พร้อมตัวแทนผู้บริหารและคณาจารย์นำเสนอแนวทางการปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (Chula Transformation) ที่มุ่งเน้นในสามเรื่องหลักๆ คือ การเรียนรู้ การวิจัย และการสร้างนวัตกรรม ในโอกาสนี้ ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และ ศ.ดร.บัณฑิต เอื้ออาภรณ์ อธิการบดีจุฬาฯ ให้สัมภาษณ์และตอบข้อซักถามของสื่อมวลชน ณ ห้องรับรอง ชั้น 2 อาคารจามจุรี 4 จากนั้น ดร.สุวิทย์ ได้พบปะพูดคุยกับตัวแทนนิสิตจุฬาฯ ณ Plearn Space ชั้นล่าง อาคารเปรมบุรฉัตร การพบปะและหารือกับผู้บริหาร คณาจารย์ และนิสิตจุฬาฯ ในครั้งนี้ ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ได้นำเสนอนโยบายของกระทรวงแห่งใหม่ต่อผู้บริหารจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยเน้นใน 3 ด้านคือ การสร้างและพัฒนาคน การสร้างและพัฒนาองค์ความรู้ และการสร้างและพัฒนานวัตกรรม การเปลี่ยนแปลงในโลกศตวรรษที่ 21 ทำให้การศึกษาวิจัยในรูปแบบเดิมไม่ตอบโจทย์ความต้องการอีกต่อไป สถาบันอุดมศึกษาจึงจำเป็นต้องปฏิรูปตัวเองครั้งใหญ่ การมาเยี่ยมจุฬาฯ เป็นที่แรกก็เพื่อปักหมุดให้เห็นว่ากระทรวงการอุดมศึกษาฯ ตั้งใจจะทำงานกับจุฬาฯ เพื่อสร้างการปรับเปลี่ยนเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนร่วมกัน ?จุฬาฯ ก่อตั้งขึ้นเมื่อหนึ่งร้อยกว่าปีที่แล้ว เมื่อประเทศต้องปฏิรูปครั้งใหญ่ในสมัยล้นเกล้ารัชกาลที่ 5 ปัจจุบันเกิด Disruption ครั้งใหญ่ ทำให้ต้องปฏิรูปอีกครั้ง ซึ่งกระทรวง อว. มองว่าจุฬาฯ คือเสาหลักแห่งภูมิปัญญาของประเทศชาติจึงได้มาเริ่มต้นการสร้างคุณค่าร่วมกัน (co-creation) ของอุดมศึกษาที่นี่? ดร.สุวิทย์ กล่าวว่ากระทรวง อว.จะปรับบทบาทเป็นผู้เอื้ออำนวยสนับสนุน (enabler) ไม่ใช่ผู้คุ้มกฏ (regulator) และช่วยปลดล็อคศักยภาพของทุนทางปัญญาในมหาวิทยาลัยอย่างเต็มที่ อุดมศึกษาต้องตอบโจทย์สังคมในแง่ของการ upskill (เพิ่มทักษะ) และ reskill (สร้างทักษะใหม่) สร้าง smart citizen ให้แรงงานที่มีความจำเป็นต้องปรับตัว ตลอดจนการเปิดพื้นที่การศึกษาให้ผู้สูงวัย และผู้เรียนที่ไม่จำเป็นต้องอยู่ในระบบการศึกษาดั้งเดิม ยิ่งไปกว่านั้น การสร้างระบบนิเวศยังเอื้อต่อการรังสรรค์นวัตกรรมในมหาวิทยาลัย โดยยกตัวอย่างแนวทางของการจัดตั้งกองทุนยุวสตาร์ทอัพ เพื่อบ่มเพาะผู้ประกอบการนวัตกรรม และสร้างมโนทัศน์ของการเป็นผู้ประกอบการให้คนรุ่นใหม่ ทั้งนี้ รัฐมนตรีกระทรวง อว. ยังชูแคมเปญใหม่คือ ?Innovated in Thailand? เน้นให้เกิดการสร้างนวัตกรรมในทุกระดับของประเทศและให้เกิดการเชื่อมโยงระหว่างหน่วยสร้างนวัตกรรมกับผู้ประกอบการ เช่น Startups กับ SMEs ต้องร่วมกันสร้างผลผลิตและคุณค่าใหม่ให้เศรษฐกิจและสังคม